เทคนิคการเงินบนเว็บไซต์อันดับ 1 ของเอเชีย

เจาะลึกเงินเดือนเท่าเดิมแต่ เก็บเงิน ยังไงให้อยู่!

     เคยไหม? ได้เงินเดือนเท่าเดิมทุกเดือน แต่ไม่รู้ว่าเงินหายไปไหนหมด สิ้นเดือนทีไรต้องรัดเข็มขัดทุกครั้ง แม้จะตั้งใจว่าจะเริ่ม ” เก็บเงิน ” มาหลายรอบแต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง

แล้วสาเหตุจริง ๆ มันอยู่ที่ไหนกันแน่? หรือเรากำลังมี “พฤติกรรมการเงิน” ที่ควรเปลี่ยนโดยไม่รู้ตัว? บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกพฤติกรรมทางการเงินที่ควรรีบปรับแก้ ก่อนที่เงินจะหมดก่อนกลางเดือนอีกครั้ง

%
เงินเดือนไม่พอใช้
%
อยากลงทุนแต่ยังไม่เริ่ม
%
ช้อปความสุขแม้ไม่จำเป็น

ฐานเงินเดือนต่ำ

     ผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกว่าฐานเงินเดือนของตน “ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายในชีวิตประจำวัน” 

  • รู้สึกว่าเงินเดือนไม่พอใช้: 68%

  • พอใช้แต่ไม่มีเงินเก็บ: 22%

  • พอใจในรายได้ปัจจุบัน: 10%

การลงทุน

   ผู้ตอบแบบสอบถามมีพฤติกรรมหรือความสนใจในการ “ลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้”

  • ลงทุนในคริปโต หุ้น หรือกองทุน: 35%

  • สนใจลงทุนแต่ยังไม่ได้เริ่ม: 40%

  • ไม่สนใจหรือมองว่าการลงทุนมีความเสี่ยงเกินไป: 25%

การช้อปปิ้ง

     พฤติกรรมการใช้จ่ายในเรื่องที่ไม่จำเป็น เช่น เสื้อผ้า ของแต่งบ้าน ของเล่นเทคโนโลยี

  • ช้อปเพื่อความสุขแม้ไม่มีความจำเป็น: 50%

  • ควบคุมการใช้จ่ายได้ดี: 30%

  • เน้นซื้อเฉพาะของจำเป็น: 20%

พฤติกรรมการเงินที่ทำให้ เก็บเงิน ไม่อยู่ ต้องเปลี่ยนด่วน!

ทำรายรับ-จ่ายเพื่อคำนวน “ เงินเก็บ ”

1. ไม่รู้รายรับ-รายจ่าย ทำให้ไม่ “ เก็บเงิน ”

     หลายคนอาจคิดว่าตัวเองมีเงินเดือนประจำ รู้ว่ามีรายรับเท่าไร แต่กลับไม่รู้เลยว่าใช้เงินไปกับอะไรบ้างในแต่ละเดือน นี่คือปัญหาใหญ่ที่มักถูกมองข้าม

ผลกระทบ: เมื่อไม่รู้ว่าใช้เงินกับอะไร ก็จะไม่รู้ว่าต้องลดหรือควบคุมตรงไหน ทำให้เงินไหลออกเรื่อย ๆ แบบไม่รู้ตัว

ทางแก้:
     เริ่มจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายอย่างสม่ำเสมอ จะใช้แอปฯ หรือจดในสมุดก็ได้

ขอแค่ “รู้ทุกบาทที่เข้าและออก” จะช่วยให้เห็นภาพชัดว่าอะไรฟุ่มเฟือย อะไรจำเป็น และสามารถตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกได้ทันที

คุณเคยมีอาการแบบนี้ไหม?

  • เหนื่อยจากงาน สั่งของกินแพง ๆ
  • เครียด ช้อปปิ้งออนไลน์
  • เบื่อ ซื้อของที่ไม่ได้ใช้จริง

2. ใช้เงินตามอารมณ์ ไม่ได้ตามแผน

     การใช้เงินตามอารมณ์ทำให้การเงินพังแบบไม่รู้ตัว เพราะทุกครั้งที่รู้สึกอะไรบางอย่าง ก็จะปลดปล่อยผ่านการ “รูดบัตร

ผลกระทบ: ใช้เงินเกินความจำเป็น กลายเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว และไม่มีเงินเก็บเหลือในระยะยาว

ทางแก้:
     ก่อนจะจ่ายเงินอะไร ลองตั้งคำถามกับตัวเองว่า “สิ่งนี้จำเป็นไหม?” หรือ “ถ้าไม่ได้ซื้อวันนี้ จะมีผลต่อชีวิตเราไหม?

แค่เว้นช่วงตัดสินใจสัก 24 ชั่วโมงก็ช่วยลดการใช้เงินตามอารมณ์ได้มาก

มองหาความคุ้มค่า
กับแหล่งที่เชื่อถือได้ต้องที่นี่เท่านั้น!

ไม่มีการกำหนดงบประมาณการใช้ และ เก็บเงิน รายเดือน

3. ไม่มีงบประมาณรายเดือน (Budget)

     หลายคนไม่วางแผนใช้เงินในแต่ละเดือน คิดแค่ว่า “มีเงินก็ใช้ไป” แล้วรอดูตอนสิ้นเดือนว่ายังเหลือไหม

ซึ่งมักจบด้วยการถอนเงินสำรองหรือกดเงินจากบัตรเครดิต

ผลกระทบ: เงินหมดก่อนสิ้นเดือน สะสมหนี้โดยไม่รู้ตัว และไม่สามารถวางแผนทางการเงินในระยะยาวได้

ทางแก้:
แบ่งเงินเป็น 4 ส่วนหลังเงินเดือนเข้า ได้แก่

  • ค่าใช้จ่ายจำเป็น (50%)
  • เก็บเงิน และลงทุน (20%)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว (20%)
  • เงินสำรองฉุกเฉินหรือกิจกรรมพิเศษ (10%)
ไม่มีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน

4. ไม่มีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน

     บางคนอยากเก็บออม แต่ไม่รู้จะเก็บไปทำไม ไม่รู้เป้าหมายว่าต้องการอะไรในชีวิต เช่น

ซื้อบ้าน เที่ยวญี่ปุ่น เรียนต่อ หรือเกษียณเร็ว

ผลกระทบ: ขาดแรงจูงใจในการออม และมักยอมให้ความอยากชั่วคราวมาบั่นทอนการเก็บออมระยะยาว

ทางแก้:
     ตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ชัดเจน เช่น “อยากมีเงินสำรอง 100,000 บาทใน 1 ปี” หรือ

เก็บออมซื้อรถภายใน 3 ปี” จะช่วยให้มีวินัยมากขึ้น และใช้จ่ายด้วยความระมัดระวัง

มองหาความคุ้มค่า
กับแหล่งที่เชื่อถือได้ต้องที่นี่เท่านั้น!

5. ชอบผ่อนทุกอย่าง ทั้งที่ไม่จำเป็น

     เทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้การ “รูดปุ๊บ ผ่อนปั๊บ” ง่ายมาก แต่หลายคนผ่อนจนลืมคิดว่าในแต่ละเดือนต้องรับภาระหนี้กี่รายการ

โดยเฉพาะการผ่อนของที่ไม่จำเป็น เช่น มือถือรุ่นใหม่, ของแบรนด์เนม, ของแต่งบ้านที่ไม่ได้ใช้จริง

ผลกระทบ: ผ่อนหลายรายการจนรวมกันกลายเป็นภาระรายเดือนเกินตัว เงินเดือนหายไปกับดอกเบี้ยและค่างวด

ทางแก้:
     ก่อนจะผ่อนอะไร ให้ถามตัวเองว่า “จ่ายสดได้ไหม?” ถ้าจ่ายสดไม่ได้ อาจแปลว่าเรายังไม่พร้อมทางการเงิน หรือของชิ้นนั้นไม่จำเป็นจริง ๆ

อัพเกรดวิถีชีวิตของคุณทันทีเมื่อรายได้ของคุณเพิ่มขึ้น

6. อัพไลฟ์สไตล์ทันทีที่รายได้เพิ่ม

     ได้เงินเดือนขึ้น ต้องเลี้ยงฉลอง ซื้อของแพงขึ้น ย้ายห้องเช่าหรูขึ้น ใช้ชีวิต “สมฐานะ” มากขึ้น

ซึ่งไม่ผิดหากมีการวางแผนที่ดี แต่หลายคนกลับใช้เงินเพิ่มโดยไม่มีระบบจัดการ จนสุดท้ายเงินก็หายเหมือนเดิม

ผลกระทบ: แม้รายได้จะเพิ่ม แต่เงินเก็บกลับไม่เพิ่มตาม เพราะไลฟ์สไตล์ก็อัพขึ้นแบบไร้การควบคุม

ทางแก้:
     ให้รักษาระดับการใช้จ่ายเดิมไว้ แล้วเอาส่วนเพิ่มจากเงินเดือนมาเก็บหรือลงทุนแทน จะทำให้ฐานะทางการเงินแข็งแรงขึ้นในระยะยาว

7. ไม่รู้จักการลงทุน หรือกลัวการลงทุน

     หลายคนคิดว่า “การลงทุน” คือความเสี่ยง เลยเลือก เก็บเงิน ไว้ในบัญชีออมทรัพย์เพียงอย่างเดียว ซึ่งดอกเบี้ยปัจจุบันน้อยมาก แทบจะสู้เงินเฟ้อไม่ได้เลย

ผลกระทบ: เงินที่เก็บไว้ไม่เพิ่มมูลค่า ในขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้เงินเก็บไร้พลังในอนาคต

ทางแก้:
     เริ่มต้นเรียนรู้การลงทุนพื้นฐาน เช่น กองทุนรวม หุ้น หรือคริปโตฯ อย่างมีสติ อย่าลงจนหมดตัว แต่เริ่มทีละน้อย เพื่อให้เงินทำงานแทนเรา

อยากลงทุนแทงหวยออนไลน์บนเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ ไม่มีเลขอั้น สมัครวันนี้ใส่รหัสแนะนำ DW368 พร้อมรับโบนัสฝากแรกรับ 100% เหมาะสำหรับสมาชิกใหม่

ตัวอย่างชีวิตจริง: เก็บออมไม่ได้ เพราะติดพฤติกรรมเดิม ๆ

จากผลสำรวจออนไลน์ในกลุ่มคนวัยทำงาน อายุ 25–35 ปี

พบว่า 72% ของคนที่เงินเดือนมากกว่า 25,000 บาทต่อเดือน ยอมรับว่า “ไม่มีเงินเก็บเลย” และสาเหตุอันดับ 1 คือ

ใช้จ่ายไปกับของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่รวมกันแล้วเยอะมาก” เช่น กาแฟวันละแก้ว 100 บาท เท่ากับเดือนละ 3,000 บาท และปีละ 36,000 บาท

บางคนบอกว่าแค่ตัดกาแฟหรือของจุกจิกเหล่านี้ ก็สามารถเริ่มต้นเงินออมได้แล้ว

เคล็ดลับการ เก็บเงิน ฉบับเร่งด่วน

  1. บัญชีเงินออมแยกจากบัญชีใช้จ่าย – พอเงินเดือนเข้าให้โอนไปเก็บทันที

  2. ใช้ระบบหักอัตโนมัติ – ให้เงินออมเข้าแบบไม่ต้องคิดทุกเดือน

  3. ใช้วิธี 1:2 (ใช้ 1 เก็บ 2) – เมื่อมีรายได้พิเศษเข้ามา

  4. ตั้ง Challenge กับตัวเอง – เช่น ไม่ซื้อกาแฟ 30 วัน, อดข้าวนอกบ้านสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

  5. รายงานผลทุกสัปดาห์ – สรุปให้เห็นว่าตัวเองพัฒนาด้านการเงินแค่ไหน
เคล็ดลับการ เก็บเงิน ฉบับเร่งด่วน กับ หวยไวku

รู้จักพฤติกรรมของตัวเอง คือกุญแจสำคัญสู่การมีเงินเก็บ

เงินเดือนเท่าเดิมไม่ใช่ปัญหา หากเรารู้จัก “จัดการเงิน” และ “เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย” ที่ไม่เหมาะสม การมีเงินเก็บไม่จำเป็นต้องรวยก่อน แต่ต้องมีวินัยและรู้จักตัวเอง

บทความนี้หวังว่าจะเป็นกระจกสะท้อนพฤติกรรมของคุณ และช่วยให้คุณเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงทางการเงินได้ตั้งแต่เดือนนี้

หากคุณกำลังรู้สึกว่า “ฉันก็อยากมีเงินเก็บนะ แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน

คำตอบง่าย ๆ คือ เริ่มวันนี้ เปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ ก่อน เช่น บันทึกรายจ่าย ลดของฟุ่มเฟือย และตั้งเป้าหมายการเงินในชีวิต แล้วคุณจะพบว่า “เงินเดือนเท่าเดิม” ก็สามารถสร้างอนาคตที่มั่นคงได้ไม่ยากเลย